หลายคนอยากที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ อยากลาออกจากงานประจำแล้วมาทำธุรกิจส่วนตัว หาเงินด้วยการเป็นนายตนเอง แต่สุดท้ายก็มักติดปัญหาเดิมๆนั่นคือ งบประมาณที่มีอยู่จำกัด แต่จะทำยังไงหากเงินที่คุณมีอยู่มันก็น้อยซะเหลือเกินไม่ถึง 10,000 บาทด้วยซ้ำ และจะนำไปลงทุนเพื่อทำอะไรได้บ้าง วันนี้เราจะพามาดูกัน ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นลู่ทางดีๆให้กับใครหลายๆคนก็ได้ ตามมาดูกันได้เลย

ประการแรก ผู้เขียนอยากจะบอกคือ ไม่ว่าคุณจะมีเงิน 5,000 บาท 10,000 บาท หรือ 1,000,000 บาท “จงเลือกทำธุรกิจ ในสิ่งที่ตนเองรักก่อนเป็นอันดับแรก”  เพราะหากทำในสิ่งที่คุณรักแล้ว คุณจะมีกำลังใจมากมายและมีไอเดียในแบบของตนเองถ่ายทอดและต่อยอดออกมาอยู่เสมอ

ประการที่สอง  แม้จะมีเงินน้อย แต่…คุณสามารถค้าขายอาหารได้ ในกลุ่มของอาหารทั้งหมด หากชอบทำอะไรหรือทำอะไรแล้วอร่อยเป็นพิเศษ คุณสามารถขายอาหารเหล่านั้นก่อนได้เลย  แต่การเปิดร้านอาหารด้วยงบประมาณที่จำกัด เช่น มีเงินอยู่ไม่ถึง 10,000 บาท มีปัจจัยอย่างเดียวของการเปิดร้านอาหารคือ เงิน 10,000 บาทจะค่อนข้างน้อย ดังนั้น หากใครอยากเปิดร้านอาหารด้วยงบประมาณเพียง 10,000 บาท มีกฎข้อหนึ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ ต้องใช้บ้านตัวเองที่ไม่ต้องเสียค่าเช่าใดๆในการเปิดร้านและให้นำเงิน 10,000 บาท มาหมุนเวียนในการซื้ออาหารสดนั่นเอง

ในกรณีที่มี Event หรือ การจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น ในทุกๆวันเสาร์ – อาทิตย์ ห้างสรรพสินค้าหรือสวนสาธารณะจะมีการเปิดให้ใช้พื้นที่ฟรี คุณก็ต้องคอยอัพเดทข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ เพราะพื้นที่จะถูกจองไว้เต็มเร็วมาก ซึ่งวิธีนี้คุณสามารถไปขายของนอกบ้านได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น แถมยังเป็นการให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของคุณมากขึ้นอีกด้วย สำหรับประเภทของอาหารที่นำมาขายจะแยกเป็นอาหารและเครื่องดื่ม นั่นคือ

กลุ่มเครื่องดื่ม ควรขายเป็นน้ำผลไม้ แม้ต้นทุนจะสูงแต่คุณสามารถขายราคาแพงได้ เหมาะกับเทรนคนรักสุขภาพในช่วงนี้มากๆ หรือจะขายเป็นเครื่องดื่มที่ชงเอาไว้แล้ว ซึ่งต้นทุนไม่สูงมากนักแถมกำไรดี เนื่องจากจะเสียแค่ค่าน้ำแข็งที่ต้องซื้อทุกวัน ส่วนวัตถุดิบอย่างอื่น เช่น ผงสำเร็จรูปส่วนใหญ่ใน 1 กระป๋องจะสามารถใช้ได้นานหลายสัปดาห์ ซึ่งการขายเครื่องดื่มจะมีข้อดีคือ ผู้บริโภคสามารถกลับมาซื้อได้บ่อยๆ ไม่น่าเบื่อ และเหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทยที่ต้องการเครื่องดื่มไว้ดับกระหายอยู่เสมอ

กลุ่มของอาหารหลัก  จะมีอยู่หลายประเภทไม่ว่าจะเป็นอาหารตามสั่ง  ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ข้าวราดแกง เราแนะนำว่า หากใครที่ชอบทำอาหารและอยากได้กำไรต่อจานให้สูงที่สุด ให้ทำ “ส้มตำ” เพราะต้นทุนต่ำ แต่ราคาขายสูงประมาณ 25 – 35 บาทต่อเมนู และในจานยังมีเนื้อสัตว์น้อยมาก อย่างมากก็กุ้งแห้งประมาณ 5 – 6 ตัวเท่านั้น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมส้มตำจึงมีต้นทุนต่ำ  อีกอย่าหนึ่งคือ ก๋วยเตี๋ยว อาหารยอดฮิตที่ขายได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงพักเที่ยงที่พนักงานทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลต้องสั่งเป็นประจำและมีต้นทุนค่อนข้างต่ำ จึงเหมาะแก่การเปิดร้านค้าขายอย่างมาก แต่อาหารประเภทหนึ่งที่ต้นทุนค่อนข้างสูงแต่ขายได้ดีคือ ข้าวมันไก่   ซึ่งหากใครมีงบน้อยควรหลีกเลี่ยง ข้าวมันไก่ และอาหารตามสั่งก่อนจะดีกว่าเพราะมีต้นทุนต่อจานสูงมาก

กลุ่มอาหาร (ตามกระแส) ก่อนอื่นเลยในข้อนี้เราแนะนำว่า ให้ใช้พื้นที่บ้านที่มีทั้งหมดไปซื้อแก้ว ขวดพลาสติกเก่าๆใส่น้ำยาเคมีแล้วปลูกผักออแกรนิกก็ได้  เพราะผักออแกรนิก หากนำมาขายจะได้ราคาสูงมาก  สามารถนำมาขายตามร้านอาหารและร้านสลัดต่างๆได้ เพราะปัจจุบันเทรนสุขภาพมาแรง ทำให้การรับประทานผักออแกนิกเป็นที่นิยมมาก หากหาเงินด้วยงบเพียง 10,000 บาทด้วยวิธีนี้ก็จะทำให้คุณหมุนเงินได้ง่ายและทำให้ธุรกิจโตขึ้นได้

กลุ่มเครื่องสำอาง – เสื้อผ้า  หลายๆคนทราบไหมว่า การขายเครื่องสำอาง ขายเสื้อผ้าจะมีต้นทุนก้อนใหญ่อยู่ก้อนหนึ่ง นั่นคือ การซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอางที่ต้องไปสต๊อกสินค้าเอาไว้และนำออกมาขายในภายหลัง ประกอบกับการที่ต้องมีหน้าร้านดีๆ โดยเฉพาะคำว่าหน้าร้านมีความสำคัญมาก แค่ค่าเซ็งพื้นที่ตามสวนจักรตุจักร ประตูน้ำ พันธุ์ทิพย์ ค่าเซ็งร้านต่อปีก็หลายแสนบาทแล้ว แน่นอนว่าสำหรับคนที่มีเงินทุนน้อยอยู่ คงจะเป็นการยาก เพราะหากจะขายหน้าบ้านก็เสี่ยงต่อการที่ลูกค้าเข้าไม่ถึง ยิ่งถ้าหากบ้านของคุณอยู่ในเขตชานเมือง โอกาสที่จะขายเสื้อผ้า – เครื่องสำอางได้ก็ยิ่งน้อยเข้าไปอีก

วิธีแก้คือ คุณไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน แต่ให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายด้วยการขายเครื่องสำอาง – เสื้อผ้าผ่านเว็บไซต์หรือที่เรารู้จักว่าการขายของออนไลน์ บางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้าเอาไว้ด้วยซ้ำ แต่เป็นในลักษณะของ Pre – Oder ไว้ก็ยังได้ ให้ลูกค้าได้เลือกชมสินค้าที่คุณได้ถ่ายรูปมาไว้ หากชอบก็จะมีการติดต่อซื้อ – ขาย ซึ่งในกรณีนี้ลูกค้าจะต้องชำระเงินก่อน คุณถึงจะไปสั่งของ เป็นธุรกิจที่คุณไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใด  เพียงแค่สร้างแฟนเพจหรือเว็บไซต์ในการติดต่อซื้อขายและเสนอสินค้าให้ลูกค้าได้รับชมเท่านั้น

แต่มีข้อควรระวังคือ เมื่อคุณมีแฟนเพจเป็นของตนเองแล้ว สิ่งสำคัญคือ ต้องพยายามอัพเดทข้อมูลในแฟนเพจอย่างสม่ำเสมอ นำสินค้ามาโพสต์ นำโพสต์รีวิวจากลูกค้ามาแสดงให้เห็นว่าเพจของเรามีตัวตนจริงๆ ไม่ใช่มิจฉาชีพ เพื่อสร้างเครดิตให้กับตนเองและส่งผลให้ลูกค้าหน้าใหม่มีความเชื่อถือในตัวสินค้าและบริการของคุณมากขึ้น เนื่องจากทุกวันนี้มีมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในรูปแบบของ พ่อค้า – แม่ค้า เป็นจำนวนมาก ดั่งที่เห็นในข่าวสารประจำวัน การสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์

สำหรับปัจจัยในการซื้อสินค้าออนไลน์ของลูกค้า เราก็นำมาเล่าให้ฟังกันอีกเช่นเคย นั่นคือ ควรตรวจเช็ครายการสั่งซื้อและตอบข้อความของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ บางครั้งผู้เขียนเคยสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ไว้ แต่ 3 วันผ่านไป เพิ่งได้รับการตอบกลับจากแม่ค้า เมื่อถึงเวลานั้นลองคิดดูสิว่า เราจะยังอยากซื้ออยู่ไหม คำตอบคือ ไม่ ดังนั้น กฎเหล็กของการเป็นพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์คือ “ห้ามหายหน้า หายตาไปจากแฟนเพจของคุณเกิน 3 ชั่วโมงเด็ดขาด”  เพราะการซื้อสินค้าออนไลน์จะใช้เวลาไม่นานในการตัดสินใจและใช้เวลาไม่นานในการยกเลิกเช่นเดียวกัน  หากเวลาผ่านไปสักพักก็จะเกิดความรู้สึกไม่ยากซื้อแล้ว เพราะฉะนั้นการปิดยอดขายให้เร็วที่สุด จึงเป็นกฏเหล็กของพ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์ในสมัยนี้  เพราะตอนนี้กระแสของสินค้าออนไลน์ค่อนข้างมาแรง ผนวกกับการเติบโตของธุรกิจที่เรียกกันว่า Facebook, Twitter, Google เป็นต้น ทำให้การหาเงินด้วยการทำธุรกิจออนไลน์จึงมีการแข่งขันที่สูงมาก

นอกจากนี้ยังมีการหาเงินในแบบอื่นๆที่ลงทุนน้อยหรือในบางรายก็แทบไม่ได้ลงทุนอะไรเลย เพียงแค่ใช้หนึ่งสมองสองมือเท่านั้น ได้แก่…

การเป็น Youtuber  คุณสามารถใช้อุปกรณ์ง่ายๆอย่างกล้องวีดิโอ โทรศัพท์มือถือในการสร้างรายได้ให้กับตนเอง   Step 1 คือ คุณจะต้องมี G – mail เมื่อมี  G – mail แล้วก็ใช้สมัครบัญชี Adsense ซึ่งปัจจุบันก็มีวิธีทำแล้วใน Google  สามารถหาดูขั้นตอนการสมัครได้ ส่วน  Step 2 คุณจะต้องสร้างคลิปวีดิโอขึ้นมาและ Step 3 ก็อัพโหลดวีดิโอของคุณขึ้นยูทูป  จากนั้นก็เชื่อมบัญชียูทูปเข้ากับบัญชี Adsense ของคุณและรอรับเงินได้เลย หากยอดเงินของคุณเกิน 100 ดอลลาร์

หาเงินด้วยงานเขียนบทความ  คุณสามารถประกาศรับจ้างเขียนบทความได้ ซึ่งจะมีกลุ่มประกาศซื้อ – ขายบทความในเฟสบุ๊ค โดยราคาตลาดในปัจจุบันอยู่ที่ 100 คำจะเท่ากับ 20 บาท หากคุณสามารถพิมพ์ได้ 5,000 คำ ก็จะสามารถหารายได้ประมาณ 2,000 บาทต่อ 1 วัน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่มากเลยทีเดียว และนั่นหมายถึงเงิน 60,000 บาทต่อเดือน แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่เข้ามาดิลงานกับคุณด้วย เพราะปัจจุบันตลาดซื้อ – ขายบทความ เริ่มมีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น รวมทั้งในเรื่องของมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในรูปแบบของ “ผู้ว่าจ้าง” การถูกโกงเงินจึงเกิดขึ้นบ่อย สำหรับนักเขียนหน้าใหม่น้อยประสบการณ์ ทางที่ดีควรให้ “ผู้ว่าจ้าง” วางเงินมัดจำก่อนสัก 30 – 50 % ก่อนเริ่มงานจะดีที่สุด

อาจารย์ฟรีแลนท์  ใครที่มีความถนัดเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษาต่างประเทศ คณิตศาสตร์ ซึ่งทั้ง 2 วิชานี้ยังคงเป็นที่ต้องการของนักเรียน นักศึกษาอย่างต่อเนื่อง  หากมีความสามารถในด้านใดด้านหนึ่ง คุณอาจจะเอาความสามารถเหล่านี้ไปเสนอขายและรับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงหรือเปลี่ยนบ้านของคุณให้เป็นสถานที่สอนพิเศษและรับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงก็สามารถทำได้เช่นกัน หรือจะสอนผ่านโปรแกรมเป็นวีดิโอคอลก็สามารถทำได้  หากใครนัดสอนตามร้านกาแฟและรับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกอยู่ไม่น้อยเลย โดยรายได้ที่ได้จะขึ้นอยู่กับชั่วโมงที่สอนคูณด้วยค่าสอน ไม่ว่าจะสอนอะไรก็แล้วแต่โดยส่วนจะอยู่ที่ 250 – 300 บาทต่อชั่วโมง หากใครที่ทำแบบ Full Time เหมืองานประจำ 1 วันคุณจะได้เงินมากถึง 2,500 – 2,700 บาทเลยทีเดียว แถมค่าอุปกรณ์ หนังสือ ตำราต่างๆ ยังใช้งบประถึง 5,000 บาทอีกด้วย

เป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์  โดยวิธีการเริ่มต้นอาชีพนี้ก็คือ หาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการทางตลาดให้กับลูกค้า ติดต่อเจรจา ทำสัญญา ประกาศขายและเมื่อขายได้แล้ว คุณก็รับเงินค่าจ้างนายหน้าไป หากอสังหาริมทรัพย์นั้นมีราคา 1,000,000 บาท คุณจะได้ค่านายหน้า 30,000 บาท หากราคา 2,000,000 บาท คุณก็จะได้ค่านายหน้าถึง 60,000 บาทเลยล่ะ

จัดคอร์สสัมมนา วิธีการนี้ ก็ง่ายมากโดยเลือกหัวข้อที่คุณรู้ว่าตนเองเชี่ยวชาญจริงๆ ต่อจากนั้นก็สร้างเนื้อหาฟรีและเผยแพร่ออกไป อาจจะใช้ช่องทางโซเชียลมิเดียในการโปรโมท  หลังจากนั้นก็ทำการประกาศคอร์สเพื่อหานักเรียน  และเช่าสถานที่ในการสัมมนา โดยหลักๆแล้วหัวข้อที่จะถูกจัดสัมมนา มักจะมีแค่ 6 หัวข้อเท่านั้น คือ สอนการทำธุรกิจ สอนงานประดิษฐ์ สอนพัฒนาบุคลิกภาพ สอนเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ สอนเรื่องเงิน และสอนเรื่องจิตวิญญาณ

ธุรกิจ Dropship ซึ่งจะประกอบไปด้วยกัน 3 ประการคือ ตัวคุณเอง เจ้าของสินค้า และลูกค้าของคุณ วิธีการคือ เราแค่นำสินค้าของเจ้าของสินค้าไปประกาศขาย เมื่อมีลูกค้าของคุณโอนเงินมาให้ คุณก็แค่โอนเงินต่อให้เจ้าของสินค้า  และเจ้าของสินค้าจะทำการส่งสินค้าให้กับลูกค้าของคุณเอง  โดยที่คุณไม่ต้องสต๊อกสินค้าเลย ส่วนเรื่องของกำไรที่ได้มาจะอยู่ที่ราวๆ 10 – 15 %

สร้างคอร์สออนไลน์ขาย ซึ่งเว็บไซต์ที่ให้ไอเดียเรื่องคอร์สออนไลน์ก็คือ Udemy จะมีคอร์สออนไลน์จากทั่วโลกที่เปิดให้คนทั่วไปสามารถซื้อได้เลย สำหรับในประเทศไทยเราก็มี Skill Lane และ ตลาดปัญญา 2.0 ที่เป็นเว็บไซด์สำเร็จรูปที่ให้คุณสามารถนำคอร์สออนไลน์ของคุณไปขายเพื่อสร้างรายได้

เป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกาย เปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นคนที่มีหุ่นดี รายได้ต่อชั่วโมงจะอยู่ที่  หลักร้อยบาทไปจนถึงหลายพัน ซึ่งขึ้นอยู่กับลูกค้าของคุณว่าจะจ่ายให้กับคุณในระดับไหน เหมาะกับเทรนคนรักสุขภาพในช่วงนี้มากๆ

สร้างรายได้จาก Google Adsense หากคุณมีเว็บไซต์ก็สมัคร Google Adsense  และนำโฆษณามาติดในเว็บไซต์ของคุณ ทุกครั้งที่มีคนคลิกโฆษณาในเว็บไซด์ของคุณ เราก็จะได้เงินในที่สุด สำหรับด้านนี้ไม่ลงทุนเป็นเงิน แต่ลงทุนด้วยเวลาและความทุ่มเทล้วนๆเลย

ทำขนมขายผ่านทางโซเชียลมิเดีย  ไม่ว่าจะเป็นขนมเค้ก คุ้กกี้ มาการอง บราวนี่ (อย่างหลังนี้ฮิตมาก เพราะทำง่าย ขายคล่อง ใครที่ฝีมือดีๆ ทำส่งร้านกาแฟสร้างรายได้หลายพันบาทต่อเดือนเลยก็มี) ขอแค่คุณถ่ายรูปสินค้าให้ดูน่ากิน ผู้เขียนมั่นใจว่าจะต้องมีลูกค้ามาติดต่อขอซื้ออย่างแน่นอน ใครมีฝีมือทางด้านแนะนำว่าต้องลอง

ดังนั้น การหาเงิน สำหรับคนงบน้อย แต่อยากทำธุรกิจ  อย่างแรกที่ห้ามลืมคือ ให้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก หากใครชอบอาหาร อยากเปิดร้านอาหารให้ทำในสิ่งที่ต้นทุนต่ำ กำไรสูง ส่วนใครที่ชอบค้าขาย แนะนำว่าให้ยกตัวเองขึ้นเป็นพ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์ก่อน เพราะการลงทุนในด้านนี้จะยังไม่สูงมาก เมื่อได้เงินมาสักก้อนแล้ว อยากจะมีหน้าร้านก็ค่อยขยายกิจการในภายหลัง แต่เมื่อมีหน้าร้านก็อย่าลืมคิดถึงเรื่องค่าเช่า ค่าคนงานอีกทีหนึ่งด้วย

ส่วนในด้านอื่นๆที่เรานำเสนอมาในวันนี้ก็สามารถลองไปปรับใช้กันได้ไม่ว่าจะเป็น การทำขนมขายผ่านทางไอจี ที่สร้างรายได้ให้กับวัยรุ่นหลายคนที่รักการทำขนม, การเป็นเทรนเนอร์, การเป็นยูทูปเบอร์, รับเขียนบทความ งานยอดนิยมที่สร้างรายได้ให้กับใครหลายๆคนกันมาแล้ว แต่ระวังเรื่องมิจฉาชีพหน่อยจะดีมาก, สร้างคอร์สออนไลน์ขาย ซึ่งในเมืองไทยยังไม่บูมมากนัก หากใครที่สนใจจะตีตลาดด้านนี้ก็สามารถลงมือทำได้เลย แต่ย้ำว่าต้องเป็นแนวที่คุณถนัดและเชี่ยวชาญจริงๆ รับรองว่าจะทำเงินได้อย่างแน่นอน ขอเพียงแค่ลงมือทำ ตั้งใจ พัฒนาฝีมืออยู่เสมอ เพียงเท่านี้ การหาเงิน ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป


อาจารย์ต้น
อาจารย์ต้น

สวัสดีครับ ผมชื่ออาจารย์ต้น ผมรักการเขียนบทความ SEO มาตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันผ่านเว็บ articleheros.com ปัจจุบันสนใจค้นคว้า วิธีหาเงินออนไลน์ การลงทุนออนไลน์ และเขียนบทความแบ่งปันทุก ๆ คนในรูปแบบคู่มือ ที่คุณสามารถอ่านและเอาไปใช้งานได้จริง อย่าลืมกด subscription กันนะครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published.